วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

รับมือ “เอ็นทรานซ์ 4.0"

       ห่างหายจากระบบการศึกษาไทยไปนานนับสิบปี กับ “เอ็นทรานซ์” หรือ #เอ็นสะท้าน ที่เด็ก’ 48 จำได้ขึ้นใจ! แต่นับจากนี้ เด็ก’61 ต้องเตรียมตัวครั้งใหญ่เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น้องๆ ต้องรู้นั่นคือการยกเลิกระบบสอบแอดมิชชั่น เป็นการสอบ “เอ็นทรานซ์ 4.0”







“เอ็นทรานซ์ 4.0 หรือ เอ็นทรานซ์ 61” 

       เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2559 แต่มหาวิทยาลัยเขาได้นัดประชุมกันแบบเร่งด่วน เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องนี้ครับ ซึ่งในที่ประชุมมีตัวแทนแต่ละมหาวิทยาลัยมาครบ ไม่รู้ลึกๆ แต่ละมหาวิทยาลัยเห็นด้วยกับระบบใหม่นี้ทุกแห่งหรือไม่ แต่ในที่สุดที่ประชุมก็มีมติออกมาว่า "ปี 61 ยกเลิกแอดมิชชั่นแน่นอน" พร้อมโปรยแนวคิดของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยระบบใหม่ คือ "เอนทรานซ์ 4.0" ซึ่งเป็นการผสมผสานของการสอบเอนทรานซ์และแอดมิชชั่นนั้นเอง

        นพ.อุดม คชินทร อธิการมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานนั่งหัวโต๊ะที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ได้เล่าว่า มีข้อสรุปให้ยกเลิกระบบแอดมิชชั่น ในปี 2561 และให้ปรับมาใช้ "ระบบการรับตรงกลางร่วมกัน" หรือ "เอนทรานซ์ 4.0" โดยระบบใหม่นี้จะมีข้อสอบกลางเป็นข้อสอบ GAT PAT, 9 วิชาสามัญ และ ONET ที่ดูแลโดย สทศ. โดยจัดสอบหลังจบ ม.6 ประมาณเดือน มี.ค.- เม.ย. จากนั้นเมื่อทราบผลคะแนนแล้วจะเปิดรับสมัครเลือกสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้าเรียนได้ 4 อันดับ จากนั้นมหาวิทยาลัยจะคัดเด็กตามลำดับคะแนน โดยต่างคนต่างคัด และแจ้งผลการคัดเลือกกลับมาที่ส่วนกลางว่าเพื่อเข้าสู่ระบบเคลียริ่งเฮาส์ ซึ่งเปิดให้ยื่น 2 รอบ

        เป็นการสอบระบบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในปี 2561 ซึ่งจะเปิดสอบ “พร้อมกันทั่วประเทศ” เพียงครั้งเดียวโดยใช้ข้อสอบกลาง (หากมหาวิทยาลัยไหนจะจัดสอบเองต้องขออนุญาตก่อน) และน้องๆ สามารถนำคะแนนที่ได้มายื่นสมัครเลือกคณะที่ต้องการได้ 4 อันดับ มีสิทธิ์ในการยื่น คะแนนตามระบบเคลียริ่งเฮาส์ 2 ครั้ง

blog-thumb-2

สิ่งที่คงอยู่ และหายไป เมื่อปรับมาใช้ระบบ "เอนทรานซ์ 4.0"
  1. โควตา ยังมีการเปิดรับปกติ และสามารถรับได้ตลอดทั้งปี แต่ต้องไม่ใช่โควตาที่เป็นการสอบข้อเขียน อาทิ โควตานักกีฬา (คัดจากผลงานด้านกีฬา) โควตาเรียนดี (ผลงานด้านเกรดเฉลี่ย)
  2. เคลียริ่งเฮาส์ ยังมีปกติ แต่เพิ่มเป็น 2 ครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการหลังเลือก 4 อันดับ
  3. GAT PAT ยังมีปกติ แต่เหลือเพียงรอบเดียว และจะเลื่อนไปสอบหลังจบ ม.6 คือช่วงเดือนมีนาคม
  4. วิชาสามัญ ยังมีปกติ จะเลื่อนไปสอบหลังจบ ม.6 คือช่วงเดือนมีนาคม
  5. ONET ยังมีปกติ จะเลื่อนไปสอบหลังจบ ม.6 คือช่วงเดือนมีนาคม
  6. รับตรง ที่มหาวิทยาลัยจัดสอบเอง ยังมีปกติ แต่ต้องดำเนินการหลังจากจบกระบวนการเคลียริ่งเฮาส์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือช่วง มิ.ย.
  7. แอดมิชชั่น ไม่มีแล้ว เพราะ 4 อันดับถูกย้ายไปรวมกันเป็น 1 ในขั้นตอนของระบบใหม่
  8. กฏเหล็ก ให้ทุกมหาวิทยาลัยใช้ข้อสอบกลาง และหากที่ไหนจำเป็นต้องจัดสอบเอง ต้องผ่านการอนุญาตจาก ทปอ. โดยจะพิจารณาตามเหตุผล และกำหนดให้จัดสอบหลังจบกระบวนการเคลียริ่งเฮ้าส์เท่านั้น ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกต่างๆ ในระบบเอนทรานซ์ 4.0 ให้มหาวิทยาลัยและคณะเป็นผู้กำหนดเอง
ซึ่งกระบวนการตามระบบคือ
  1. นักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 สอบปลายภาคเรียบร้อยแล้ว
  2. เปิดสอบ GAT PAT และ 9 วิชาสามัญ (สอบประมาณช่วงกลางมีนาคม 2561)
  3. นำคะแนนที่ได้ ไปยื่นเลือกคณะที่ต้องการ 4 อันดับ
  4. มหาวิทยาลัยคัดเลือกนักศึกษา ส่งชื่อเข้าระบบเคลียริ่ง #เคลียริ่งรอบที่1
  5. เปิดให้นักเรียนที่ไม่ติดคณะที่ต้องการ ในรอบแรก ยื่นคะแนนรอบที่2
  6. นักเรียนผ่านการคัดเลือก #เคลียริ่งรอบ2
ซึ่งระหว่างที่มีการสอบ ยื่นคะแนน และมหาวิทยาลัยทำการคัดเลือกอยู่นั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการจะไม่อนุญาตให้มหาวิทยาลัยเปิดสอบรับตรงใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อลดปัญหาเด็กต้องวิ่งสอบหลายสนาม รวมถึงลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
หากนักเรียนที่จะจบการศึกษาและเข้าสอบระบบเอนทรานซ์ 4.0 อย่าเพิ่งตกใจหรือหวั่นไหวกับระบบเอนทรานซ์ 4.0 มากไปเพราะ ระบบการสอบเปลี่ยน ไม่ได้แปลว่าการสอบจะลดน้อยลง แต่เป็นเพียง “การเลื่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกไป” จากเดิมต้องสอบช่วงเทอม 2 ของ ม.6 เปลี่ยนเป็นสอบหลังจากจบ ม.6
เท่ากับว่า DEK61 จะเริ่มสอบสนามแรก คือ เดือน มี.ค. 2561 และสอบติดๆ กัน ทั้ง GAT, PAT, 9 วิชาสามัญ และ ONET และมีโอกาสสอบได้เพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น !!!

เมื่อระบบเปลี่ยน เราจะปรับตัวกันอย่างไรล่ะ?

แนวทางที่อยากแนะนำให้น้องๆ ได้เริ่มลองวางแผนกัน โดยเฉพาะในช่วง ต.ค.59 นี้ มี บันไดแห่งความสำเร็จ 4 ขั้น มาแนะนำกัน เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จของระบบเอ็นทรานซ์ 4.0 แล้วเราจะสู้ไปด้วยกันนะ
บันไดขั้นที่ 1 ทบทวนความรู้ ม.4 ม.5 ให้ดี ปิดเทอม ต.ค.นี้ หาเวลาทบทวนเนื้อหา หรือลงคอร์ส ม.5 ล่วงหน้าเพื่อความพร้อมของการทำเกรดในโรงเรียน และเป็นพื้นฐานความรู้ที่เราจะใช้สอบในทุกๆ สนามสอบ
บันไดขั้นที่ 2 ม.5 เทอม 2 เริ่มหาข้อมูลการเลือกคณะกันอย่างจริงจัง อย่างน้อยก็ให้มีคณะในใจสัก 3-4 ที่ แล้วลองหาข้อมูลว่าในระบบรับตรงปัจจุบัน คณะเท่านี้ เลือกที่จะใช้คะแนนสอบไหนยื่นคะแนน แล้วลิสต์ไว้ก่อน (รอประกาศที่ชัดเจน เม.ย.60)
บันไดขั้นที่ 3 ทดลองนำข้อสอบของสนามนั้นๆ มาลองเปิดดู เลือกทำโจทย์เตรียมความพร้อมของเนื้อหา ม.4 และ ม.5 แค่เนื้อหาสองส่วนนี้ อย่างน้อยก็ คือสัดส่วนวัดผลข้อสอบ 2 ใน 3 ของความรู้มัธยมปลายแล้วนะ
บันไดขั้นที่ 4 SUMMER เปิดเทอมขึ้น ม. 6 อ่านหนังสือ หรือเรียนเนื้อหา ม.6 เมื่อทราบเกณฑ์ชัดเจนแล้วก็ลุยเตรียมความพร้อมตะลุยโจทย์ข้อสอบสนามนั้นๆ (เก็บเนื้อหา ม.ปลาย ให้จบในเดือน ต.ค. 60 เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมพร้อมตะลุยโจทย์ข้อสอบกัน)
เริ่มตั้งแต่วันนี้ อย่าชะล่าใจ เย้ๆ ดีใจ เลื่อนสอบออกไปอีกตั้งครึ่งปี เริ่มก่อนได้เปรียบ ลองปรับวิธีบันได 4 ขั้นสู่ความสำเร็จ เอ็นทรานซ์ 4.0 กันนะ
หน่วยงานต่างๆ ของระบบ "เอนทรานซ์ 4.0"
มหาวิทยาลัย >> กำหนดเกณฑ์วิชาที่ใช้ และ-ส่วนคะแนน ให้อิสระโดยไม่จำเป็นต้องเหมือนกันแต่ละมหาวิทยาลัย
สทศ. >> จัดสอบข้อสอบกลาง นั้นคือ GAT PAT วิชาสามัญ และ ONET
สอท. >> จัดระบบเคลียริ่งเฮ้าส์

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.ondemand.in.th/article/entrance-61/
                             https://www.dek-d.com/board/view/3681768/
                             http://www.webythebrain.com/article/entrance-61